เด็กนอนกรน จำเป็นต้องรักษาด้วยเครื่อง CPAP หรือไม่?
ภาวะนอนกรนเป็นปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศและทุกวัย รวมถึงเด็ก ๆ ที่พบได้บ่อยในช่วงอายุระหว่าง 2 – 6 ปี ซึ่งเป็นช่วงก่อนวัยเรียนหรืออยู่ในช่วงระดับอนุบาล เนื่องจากเด็กวัยนี้จะมีต่อมทอนซิล และต่อมอะดีนอยด์ที่มักโตเร็วเมื่อเทียบกับขนาดของทางเดินหายใจเด็ก อาจก่อให้เกิดอาการนอนกรนในเด็ก
สำหรับอาการกรนของเด็กเกิดได้จากหลายสาเหตุ นอกจากเกิดจากทางเดินหายใจถูกกดทับหรือตีบแคบทำให้หายใจไม่สะดวกจนเกิดเป็นเสียงกรนแล้ว โรคภูมิแพ้ในเด็ก ก็เป็นสาเหตุสำคัญทำให้มีภาวะนอนกรน
อาการนอนกรนจากภูมิแพ้ในเด็ก
ปกติทั่วไปอาการนอนกรนในเด็กเกิดขึ้นได้จากระบบทางเดินหายใจ คือ ลิ้นไก่และเพดานอ่อน มีความผิดปกติตีบแคบ ทำให้หายใจได้ไม่สะดวกและเมื่อหายใจเข้าออกทำให้เกิดการสั่นสะเทือนและเป็นเสียงกรนออกมา
อาการนอนกรนในลักษณะนี้หากไม่ได้รับการดูแลหรือทำการรักษา อาจเป็นอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพทำให้เด็กมีภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ และยังมีปัญหาต่อพัฒนาการในทุก ๆ ด้าน ซึ่งส่วนใหญ่จะทำการรักษาด้วย เครื่องช่วยหายใจ CPAP หรือ เครื่องช่วยหายใจ BiPAP ที่สามารถปรับระดับแรงดันให้เหมาะสมกับภาวะนอนกรนของเด็กได้
สำหรับอาการภูมิแพ้ในเด็กที่พบแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่ อาการภูมิแพ้ทางผิวหนัง และอาการภูมิแพ้ทางเดินหายใจ ส่วนอาการภูมิแพ้ที่ทำให้เด็กมีภาวะนอนกรนส่วนใหญ่ เกิดจากโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจ
โรคภูมิแพ้ในเด็กเกิดจากอะไร?
โรคภูมิแพ้เป็นโรคที่พบได้มากในเด็ก และยังเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น อาการภูมิแพ้จากอาหาร ได้แก่ แพ้นม แพ้อาหารทะเล หรืออื่น ๆ อาการภูมิแพ้ที่เกิดจากสิ่งแวดล้อม ได้แก่ ฝุ่นละออง ไรฝุ่น หรือสัตว์เลี้ยง เมื่อเกิดอาการแพ้จากสาเหตุเหล่านี้ ส่งผลต่อสุขภาพในหลายระบบของร่างกาย เช่น ระบบผิวหนัง ระบบทางเดินหายใจ และระบบทางเดินอาหาร
- อาการภูมิแพ้ในเด็กที่แสดงออกทางระบบผิวหนัง ได้แก่ มีผื่นคัน ผิวหนังแห้ง หรือผื่นลมพิษในลักษณะเป็น ๆ หาย ๆ
- อาการภูมิแพ้ในเด็กที่แสดงออกทางระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ เป็นหวัดบ่อย จามน้ำมูกไหล
- ในตอนเช้า เป็นหวัดเรื้อรัง หรือเป็นไซนัสอักเสบ และอาการแทรกซ้อนที่ก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพก็คือภาวะนอนกรน หรืออาการนอนกรนเสียงดังในเด็ก
- อาการภูมิแพ้ในเด็กที่แสดงออกทางระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ อาการท้องอืด ถ่ายเหลว มีมูกเลือดปนในอุจจาระ อาเจียน แหวะนมบ่อย หรือมีผื่นคันรอบปาก
อาการของโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจกับภาวะนอนกรนในเด็ก
อาการของโรคภูมิแพ้ที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ จะเริ่มด้วยอาการคันในจมูก คันในลำคอ มีน้ำมูกใสๆ ตามด้วยอาการจามติดต่อกันหลาย ๆ ครั้ง มีอาการแน่นจมูก หรือหายใจทางจมูกไม่สะดวก เนื่องจากเนื้อเยื่อในโพรงจมูกบวม และอาจมีปัญหาที่หลอดลมทำให้มีอาการไอและหายใจเสียงดังวี้ด แน่นหน้าอก หายใจไม่ออกต้องนอนอ้าปาก หรือหายใจทางปากทำให้มีภาวะนอนกรนเสียงดังในเด็ก สำหรับสารที่ก่อภูมิแพ้ทางเดินหายใจ จนเป็นสาเหตุทำให้เด็กนอนกรนเสียงดัง ได้แก่
- ปัญหาฝุ่นในบ้านหรือฝุ่นที่อยู่ในห้องนอนและเครื่องนอน เช่น ปลอกหมอน ที่นอน ผ้าห่ม ตุ๊กตา หรือของใช้ภายในห้อง
- ตัวไรฝุ่นในชุดเครื่องนอนของเด็ก
- สารก่อภูมิแพ้ที่มาจากนุ่น มาจากขนของสัตว์เลี้ยง และรังแคของสัตว์เลี้ยง
- เกสรของหญ้า เกสรของดอกไม้ หรือวัชพืชต่าง ๆ
- จากเชื้อราที่อยู่ในอากาศ
- เศษชิ้นส่วนและสิ่งขับถ่ายของแมลงในบ้าน เช่น แมลงสาบ ยุง แมลงวัน มด
ภาวะนอนกรนในเด็กที่เกิดจากภูมิแพ้ จำเป็นต้องรักษาด้วยเครื่อง CPAP หรือ BiPAP หรือไม่?
สำหรับภาวะนอนกรนในเด็กที่เกิดจากภูมิแพ้ ส่วนใหญ่เกิดจากระบบทางเดินหายใจเกิดการอักเสบ มีอาการแน่นจมูก หรือหายใจทางจมูกไม่สะดวก ทำให้ต้องหายใจทางปาก
อาการกรนส่วนหนึ่งเกิดจากการนอนอ้าปาก หากดูแลรักษาสุขภาพ ป้องกันปัญหาระบบทางเดินหายใจ ทำให้เด็กหายใจได้สะดวก และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงจากสารก่อภูมิแพ้ อาการนอนกรนจากโรคภูมิแพ้ก็จะหายได้เอง โดยไม่ต้องทำการรักษาด้วยเครื่องช่วยหายใจ
สำหรับอาการนอนกรนในเด็กที่ไม่ได้เกิดจากโรคภูมิแพ้ แต่เกิดจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น การนอนกรนเพราะระบบทางเดินหายใจผิดปกติ ทางเดินหายใจถูกปิดกั้นหรือแคบลง ทำให้มีอาการกรนในระดับปานกลางถึงรุนแรง เป็นปัญหาสุขภาพที่อาจมีภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ จำเป็นที่จะต้องดูแลรักษาด้วยเครื่องช่วยหายใจ CPAP หรือ BiPAP ซึ่งขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์