เครื่องผลิตออกซิเจนต่างกับถังออกซิเจนอย่างไร?
หลังจากที่ได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องผลิตออกซิเจนกันไปแล้วในบทความ เครื่องผลิตออกซิเจนคืออะไร ในบทความนี้จะขออธิบายถึงเครื่องผลิตออกซิเจนและถังออกซิเจน ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง และควรเลือกใช้งานอย่างไรบ้าง
ทำความรู้จักกับเครื่องผลิตออกซิเจน (Oxygen Concentrator) และถังออกซิเจน (Oxygen tank)
เครื่องผลิตออกซิเจน เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อผลิตออกซิเจนในความเข้มข้นที่สูงขึ้น เพื่อใช้ในการบำบัดออกซิเจน มักใช้คู่กับเครื่องช่วยหายใจ เช่น เครื่อง CPAP หรือ BiPAP ตามคำแนะนำของแพทย์
ส่วนถังออกซิเจน ไม่สามารถผลิตออกซิเจนได้ด้วยตัวเอง เป็นเพียงแต่ถังเหล็กที่ใช้บรรจุก๊าซออกซิเจนเท่านั้น อีกทั้งยังมีหลายขนาดตามปริมาณของออกซิเจนที่บรรจุอยู่ภายในถังให้เลือกใช้
การเจาะคอจะทำในผู้ป่วยที่ประสบภาวะบางอย่างที่อุดกั้นทางเดินหายใจเอาไว้จนคนไข้ไม่สามารถหายใจได้เอง ไม่ว่าจะเป็นแบบเฉียบพลันหรือว่าเรื้อรัง รวมถึงผู้ป่วยไม่รู้สติ ผู้ป่วยอัมพาตและผู้ป่วยติดเตียงที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจนานๆ จนทำให้เกิดพังพืดบริเวณกล่องเสียง
เครื่องผลิตออกซิเจน (Oxygen Concentrator) ต่างกับถังออกซิเจน (Oxygen tank) อย่างไร แล้วควรจะเลือกใช้อย่างไร
จริงๆ แล้วจุดประสงค์ของการใช้เครื่องผลิตออกซิเจนและถังออกซิเจนนั้นไม่ต่างกันมากนัก โดยทั้งสองอย่างนี้ใช้สำหรับการบำบัดด้วยออกซิเจนเพื่อรักษาผู้ป่วยจากโรคทางเดินหายใจต่างๆ เพื่อให้ผู้ป่วยให้ได้รับออกซิเจนในปริมาณที่เพียงพอต่อร่างกาย
อย่างไรก็ตามทั้งเครื่องผลิตออกซิเจนและถังออกซิเจนก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันออกไปเล็กน้อยดังนี้
เครื่องผลิตออกซิเจน
ข้อดี:
- ใช้งานง่ายกว่าถังออกซิเจน
- สะดวกสบายและประหยัดเวลามากกว่า เนื่องจากไม่ต้องเติมออกซิเจนบ่อยๆ เหมือนการใช้ถังออกซิเจน
- ประหยัดค่าใช้จ่าย หากต้องการใช้ในระยะยาว
ข้อเสีย:
- ใช้งานได้เฉพาะก็ต่อเมื่อมีไฟฟ้า
- ไม่สามารถใช้งานขณะเดินทางได้ ยกเว้น เครื่องผลิตออกซิเจนขนาดพกพาที่สามารถใช้กับแบตเตอรี่สำรองได้
ถังออกซิเจน
ข้อดี:
- ความเข้มข้นของออกซิเจนสูงกว่าเครื่องผลิตออกซิเจน โดยอยู่ที่ 99%
- ใช้งานบนรถยนต์ได้ สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกกว่าหากเลือกใช้ถังออกซิเจนขนาดเล็ก
ข้อเสีย:
- สิ้นเปลืองเวลา เนื่องจากต้องคอยเติมออกซิเจนอยู่บ่อยครั้ง
- เสียค่าใช้จ่ายมาก หากต้องการใช้ในระยะยาว